ส.ป.ก. เดินหน้าส่งเสริมอาชีพเกษตรกรพื้นที่ คทช.-ส.ป.ก.4-01 จ.อุทัยธานี และนครสวรรค์พร้อมหนุนรวมกลุ่มบริหารจัดการผ่านระบบสหกรณ์ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล นำโดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายต้องการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และสร้างโอกาสการเข้าถึง บริการของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกร การรุกล้ำเขตป่าสงวนและการรักษา ความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ขึ้น เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สงวนหวงห้ามของรัฐ และจัดสรรที่ดินให้กับผู้ยากจนที่ไม่มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัย ได้มีที่ทำกินเพื่อใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานีเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ ส.ป.ก. ได้ดำเนินการนำที่ดินแปลงว่าง เนื้อที่ประมาณ 3,239-2-39 ไร่ ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เคยขอใช้ประโยชน์และหมดอายุสัญญาเช่าจาก ส.ป.ก. มาดำเนินการจัดที่ดิน ในลักษณะแปลงรวม ไม่ให้กรรมสิทธิ์ ให้บริหารจัดการที่ดิน ในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรตามเงื่อนไขของ ส.ป.ก. ซึ่งพื้นที่โครงการแบ่งออกเป็น 8 ชุมชน รองรับการจัดเกษตรกร จำนวน 486 ราย ได้แก่ แปลงที่อยู่อาศัย 486 แปลงๆ ละ 0-1-50 ไร่ รวมเนื้อที่ประมาณ 183-0-92 ไร่ และแปลงเกษตรกรรม 486 แปลงๆ ละ 4-2-50 ไร่ รวมเนื้อที่ประมาณ 2,189-3-92 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 4, 6 และ 8 ตำบลระบำ และหมู่ที่ 7 และ 10 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ส.ป.ก.ได้ดำเนินการจัดที่ดินปี 2558-2563 ให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในรูปแบบแปลงรวมผ่านกระบวนการสหกรณ์ โดยสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด ขอเช่าที่ดินจาก ส.ป.ก. เนื้อที่ประมาณ 2,423-0-84 ไร่ และจัดให้สมาชิก 369 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร เช่น ปลูกผัก ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและมันสำปะหลัง
อย่างไรก็ตาม ส.ป.ก. ได้มีการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น จัดสร้างสระเก็บน้ำในแปลงเกษตรกรรม และส่งเสริมพัฒนาอาชีพ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่โครงการ คทช. อาทิ เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตก้อนเชื้อและเพาะเห็ดนางฟ้าจำหน่าย ยกระดับการปลูกผักอินทรีย์ การพัฒนาต่อยอดหม่อนไหม เป็นผ้าทอฝ้ายแกมไหมและยอมสีธรรมชาติ และสืบทอดการทอเสื่อด้วยกกย้อมสีธรรมชาติ
นางสาวสุภาพร กุลโคตร สมาชิก คทช.จังหวัดอุทัยธานี และประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด กล่าวว่า ได้อพยพจากพื้นที่ไม่ถูกกฎหมาย ในพื้นที่เขตป่าสงวน และเข้าโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล จังหวัดอุทัยธานี ชุมชนที่ 1 ซึ่งมีหน่วยงานสนับสนุนงบประมาณ และส่งเสริมอาชีพ รวมทั้งส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อบริหารจัดการผ่านระบบสหกรณ์ จากเดิมปลูกมันสำปะหลัง ก็ได้ปรับพื้นที่บางส่วนมาปลูกพืชผัก โดยมีเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.และสหกรณ์ ช่วยให้คำแนะนำการประกอบอาชีพ และต่อยอดด้านการตลาด
สมาชิกทุกคนที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ คทช. จะได้รับที่ทำกิน 4 ไร่ 2 งาน ที่อยู่อาศัย 150 ตารางวา และงบประมาณสร้างบ้านสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน 40,000 บาท สำหรับพื้นที่ ชุมชนที่ 1 สมาชิกส่วนใหญ่ทำอาชีพปลูกผัก เช่น มะระจีน ถั่วฝักยาง แตงกวา มะเขือ อย่างไรก็ตาม หลังจากย้ายมาอยู่ในพื้นที่ คทช. สร้างความมั่นคงในอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ปฏิรูปที่ดินระบำ จำกัด กล่าว
นางสาวปวีณา หอมแพงไว้ รองประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ผสมผสาน บ้านพนาสวรรค์ อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับสิทธิ์ทำกินในพื้นที่ ส.ป.ก. กล่าวว่า ตนเองได้รับการสืบทอดที่ดิน ส.ป.ก. จากสมัยปู่ ย่า ตา ยาย ที่ได้รับ การจัดสรร ส.ป.ก.4-01 จำนวน 22 ไร่ แต่เดิมใช้พื้นที่ในการทำนา ต่อมาในปี 2556 ได้ปรับพื้นที่ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด และในปี 2558 แบ่งพื้นที่ จำนวน 12 ไร่ ได้ริเริ่มทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผัก สวนครัวแบบอินทรีย์ มีรายได้เลี้ยงครอบครัวประมาณเดือนละ 15,000 บาท จากนั้นในปี 2562 เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ได้มาส่งเสริมให้ความรู้เรื่องการปลูกป่าวนเกษตร โดยมีการสนับสนุนพันธุ์ไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก พยูง ยางนา ยูคาลิปตัส มาเสริม ทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปี และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ได้แนะนาความรู้การผลิตถ่านชีวภาพไบโอชาร์ (Biochar) พร้อมจัดสรร งบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ และทำแปลงทดลองใช้ถ่านชีวภาพไบโอชาร์ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เกิดผลดีอย่างมาก ดินที่บำรุงด้วยถ่านชีวภาพไบโอชาร์ ร่วนซุย มีคุณภาพมากขึ้น ปลูกพืชผักงอกงาม เขียวสวย ทำให้สมาชิกในกลุ่มฯ ได้นำไปใช้ในแปลงของตนเอง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มฯกว่า 50 คน ทั้งนี้ นอกจากเราจะผลิตถ่านชีวภาพไบโอชาร์ เพื่อใช้เองแล้ว ยังนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่งด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น